รู้จักนิสัยและการรับมือกับกลุ่มคนทำงานในแต่ละ Gen (X Y Z)

ในยุคปัจจุบันแรงงานที่ขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้านั้นก็คือ คนรุ่นใหม่ไฟแรงแบบถ่านชารจ์ คนหนุ่มคนสาวซึ่งมาพร้อมกับความคิดใหม่ๆ บึ้มๆ เพราะคนรุ่นพ่อ-แม่ (Baby Boomer) หรือที่เรียกกันว่า คุณลุง คุณป้าทั้งหลายนั้น ด้วยวัย 58 – 60 ปี อาจจะเริ่มเกษียน ไฟตก-ไฟอ่อน หรือ ไปทำงานที่ตนเองชื่นชอบเป็นธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ เช่น ร้านกาแฟ หรือออกท่องเที่ยว

ฉะนั้นในออฟฟิศที่ทำงานจึงมักพบเจออยู่ 3 Generation ที่ต้องทำงานร่วมกัน นั้นก็คือ Gen X (เปรียบเสมือนพวกคุณพี่ใหญ่) Gen Y (เปรียบเสมือนน้องคนกลาง) และ Gen Z (เปรียบเสมือนน้องเล็ก)

งั้นเรามารู้จักกับ 3 Gen ที่ได้กล่าวไปดีกว่า ว่าแต่ละ Gen มีข้อดี หรือข้อสังเกตอะไรบ้าง

Gen X (คนทำงานในกลุ่ม Generation X)

Gen X (พวกคุณพี่ใหญ่ในที่ทำงาน เกิดช่วงปี พ.ศ. 2508-2522) คนที่เกิดในยุคนี้เกิดมาในช่วงที่สังคมมีความสดใส วิบวับ เศรษฐกิจดี และเป็นได้สัมผัสเทคโนโลยีกลุ่มแรกๆ เช่น วีดีโอเกมส์ เช่น เกมส์บอย เพลย์สเตย์ชั่นเป็นรุ่นแรกๆที่นิยมเพลงตะวันตก หรือ ที่เราเรียกว่าภาษาบ้านๆ ว่า เพลงฝรั่งนั้นเอง ยกตัวอย่างวงสักหน่อย เช่น Spice girls, Hansonn, wet wet wet, The Moffatts และอีกวงที่พลาดไม่ได้คือ Back Street Boy นั้นเอง ถ้าบางคนที่นิยมเพลงไทยสากล เช่น ออกมาเต้นของ ติ๊ก ชีโร่, โธ่เอ๊ย ของวง ปานามา (คาดว่าเมื่ออ่านถึงตรงนี้ หลายๆ คนคงมีนึกย้อนความหลัง ฮัมถึงเพลงเก่าๆในหัวเป็นแน่)

ในเรื่องของการทำงานนั้นคน Gen X นั้นจะแตกต่างจากรุ่นคุณลุง คุณป้า ( Baby Boomer เกิดช่วงปี พ.ศ. 2489-2507) คือ คน Gen X นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่เน้นหนักกับงานจนเกินไป เป็นคนที่ทำงานตามเวลาและหน้าที่ สามารถลุยงานเดี่ยวได้ และให้ความสำคัญกับสมดุลการใช้ชีวิตงานกับครอบครัว หรือที่เราเรียกกันว่า work life balance นั้นเอง ที่สำคัญอีกอย่างคือ เป็นคนเปิดกว้างทางความคิด รวมถึงเปิดรับเพศที่ 3 ด้วย ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับ Gen Y นั้นเอง ทีนี้มารู้จักกับ Gen Y กันบ้าง ซึ่งมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย และกำลังเป็นแรงงานไฟแรงสูงอยู่ในสังคมปัจจุบัน

Gen Y (คนทำงานในกลุ่ม Generation Y)

Gen Y หรือ Millennial (พวกน้องคนรองในที่ทำงาน เกิดช่วงปี พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ.2540) คนกลุ่มนี้มักเป็นกลุ่มคนไฟแรงที่เกิดพร้อมกับเทคโนโลยี หรือเกิดในยุคที่เป็นระบบดิจิทัลและใช้เทคโนโลยีด้าน IT ในการติดต่อประสานงาน ยกตัวอย่างเช่น ใช้ Smart phone หรือ Tablet ทำให้ใช้เครื่องมือทางด้านไอทีได้อย่างคล่องแคล่วไม่เงอะงะ และสามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นระบบ internet คือสิ่งที่สำคัญสำหรับคนกลุ่มนี้เรียกได้ว่า เป็นชีวิตจิตใจเลยทีเดียว (God bless Internet)

งั้นเรามารู้จักกับนิสัยหรือพฤติกรรมของ Gen Y หรือ Millennial กันดีกว่า ในเรื่องของการทำงานเพราะแน่นอนว่าในที่ทำงานต้องมีกลุ่มคน Gen Y ร่วมงานเห็นหน้าเห็นตากันด้วยอยู่แล้ว ซึ่งนิสัยของคนที่เป็นคนกลุ่มนี้จะต้องการความชัดเจนในการทำงานประมานว่า พูดเคลียร์ๆ มาเลยให้ทำอะไรบ้างและทำเสร็จแล้วจะได้อะไรกลับมา มีความคิดเป็นของตนเองและต้องการการยอมรับ คำชื่นชม สามารถทำอะไรหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน เพราะมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และคนกลุ่มนี้จะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบความท้าทายประมาณว่า เป้าหมายมีไว้พุ่งชน มุ่งมั่นต่อความสำเร็จ ความก้าวหน้าในอาชีพ รวมทั้งแสวงหาโอกาศใหม่ๆ ในการทำงาน ในส่วนเรื่องเพศนั้น คน Gen Y หรือ Millennial สามารถเปิดใจรับเพศที่ชอบเพศเดียวกันได้ แต่คนกลุ่มนี้มักจะไม่ทนกับการทำงานไปวันๆ และพร้อมที่จะเปลี่ยนงานได้เสมอ พร้อมกับความคาดหวังในเงินเดือนที่สูงขึ้น

ทีนี้มาต่อกันที่ Gen สุดท้ายที่ทำให้พวกพี่ๆ ที่ทำงานมีความอยากจะมาทำงาน และเป็นสิ่งที่ทำให้ที่ทำงานนั้นสดใส น่ารัก น่าทะนุถนอม นั้นก็คือ Gen Z (น้องเล็กสดใสดีต่อใจพวกพี่ๆ)

Gen Z (คนทำงานในกลุ่ม Generation Z)

Gen Z (น้องเล็กสดใสตะมุตะมิดีต่อใจพวกพี่ๆ) เกิดช่วงปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นไป และคนกลุ่มนี้เกิดมาในช่วงที่เทคโนโลยีมีความครบครัน เรียกได้ว่าคนยุคนี้แทบไม่รู้จักแผ่น floppy disk หรือ ม้วนเทปตลับ เป็นแน่ คนที่เกิดในยุคนี้จะมีแต่ระบบดิจิทัล ระบบไร้สาย และ Internet ซึ่งเป็นชีวิตจิตใจของพวกเขาเรียกได้ว่า ขาดไม่ได้เลยทีเดียว (ขาด internet เหมือนแทบขาดใจ) ซึ่งก็จะคล้ายๆ Gen Y ที่ขาด Internet ไม่ได้เช่นกัน คน Gen Z นั้นใช้ Internet ในการเสาะแสวงหาความรู้และความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงหนังหรือซีรีย์ต่างๆ ซึ่งทำให้คน Gen นี้ เป็นคนฉับไว วิเคราะห์อะไรได้รวดเร็ว และมักใช้เวลาในการทำงานที่สั้นกว่า เพราะสามารถหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจได้อย่างคล่องแคล่ว ทันใจ (วัยรุ่นไฟแรง) ทำให้อาจไม่ค่อยรู้จักคำว่า การรอคอย ในเรื่องการงาน บางทีถ้ามีที่ไหนเงินดีก็อาจสนใจพุ่งไปที่นั้นทันที และบางคนอาจจะไม่ได้ทำแค่งานหลักงานเดียวด้วย

consync-gen-xyz

การรับมือกับ กลุ่มคนทำงานในแต่ละเจเนอเรชั่น

โดยบทความนี้ อยากเสนอแนวคิดให้กับกลุ่มพวกพี่ใหญ่ Gen X โดยเฉพาะ เพื่อที่จะทำงานร่วมกับน้องคนกลาง Gen Y และน้องเล็กน่ารักอย่าง Gen Z ได้อย่างสนุกสนานปาจิงโก๊ะ ราบรื่น แบบเห็นหน้ากันทุกเช้าได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน พวกคุณพี่ใหญ่ Gen X ปัจจุบันก็เลื่อนขั้นมาเป็นหัวหน้า หรือตำแหน่งสูงๆตำแหน่งอื่นๆในองค์กร ซึ่งก็หมายความว่า ผู้ใต้บังคับบัญชานั้นจะต้องเป็น Gen Y และ Gen Z เพราะฉะนั้นคุณพี่ใหญ่ Gen X ต้องเข้าใจลักษณะนิสัยการทำงานของ Gen Y และ Gen Z

คนกลุ่ม Gen Y ลักษณะทำงานที่จะมีความคิดเป็นของตัวเองและชอบเสนอความคิดและมีความรับผิดชอบ ซึ่งผู้เขียนก็มองว่า เป็นเรื่องที่ดีเพราะองค์กรจะได้มีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้น มีงานรูปแบบใหม่ๆเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นคุณพี่ใหญ่ Gen X ควรให้โอกาสน้องคนกลาง Gen Y เสนอความคิดได้อย่างเต็มที่หรือแบบเบิ้มๆ ประมาณว่าให้ครองไมค์โครโฟนบรรยายไอเดียงานในห้องประชุมเต็มที่ไปเลย

คนกลุ่ม Gen Z พวกพี่ใหญ่ Gen X และน้องคนกลาง Gen Y ต้องเข้าใจลักษณะการทำงานของน้องเล็กสุดด้วย(Gen Z) แต่ในความคิดเห็นของผู้เขียนคือ จะใกล้เคียงกับ Gen Y ในเรื่องการเสนอความคิดหรือไอเดีย คือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แต่ที่ต่างจาก Gen X นั้นก็คือการใช้เทคโลยีในการหาข้อมูล เพราะคนกลุ่มนี้เกิดมาพร้อมเทคโนโลยีที่พร้อม เรียกได้ว่าน้องๆ Gen Z ไม่รู้จักโปรแกรม ICQ หรือ MSN อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นในการจัดฝึกอบรมผู้เขียนเสนอว่า ควรใช้เทคโนโลยีมาช่วยอบรมน้องเล็ก Gen Z และ น้องคนกลาง Gen Y จะเป็นการเหมาะสม หรือถ้าพี่ใหญ่ Gen X มีความสนใจด้วยก็ยิ่งดีไปกันใหญ่ เพราะปัจจุบันคนกลุ่มนี้เป็นแรงงานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศกล่าวคือ คนกลุ่มนี้เป็นคนที่ในวัยทำงาน ฉะนั้นหลายองค์กรจะมีผู้ร่วมงานเป็นกลุ่มคน Gen X, Gen Y หรือ Millennial และ Gen Z การที่ผู้ร่วมงานและ HR เข้าใจถึงลักษณะนิสัยของคนในแต่ละกลุ่ม จะช่วยให้ผู้ร่วมงานทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นเข้าใจกัน และ HR นั้นสามารถวางแผนในด้านการเขียน job description การคัดเลือกคน และการจัดฝึกอบรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายนี้ในมุมของผู้เขียนได้มุ่งหวังให้ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มทำงาน Gen ไหน ก็ขอให้มีความเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น มีความสุขและเอนจอยกับการทำงานร่วมกันในองค์กรครับ