ที่ปรึกษาhr

การมีที่ปรึกษา HR ช่วยพัฒนาธุรกิจและองค์กร เติบโตอย่างไร?

ผู้บริหาร หรือผู้จัดการธุรกิจองค์กรหลายคน อาจมีคำถามในใจว่า

ทำไมบริษัทถึงต้องมี ที่ปรึกษา hr ผู้ช่วยด้านงานทรัพยากรบุคคล และ พัฒนาองค์กร (HR Consulting & Organization Development)  ในเมื่อบริษัทขนาดเล็กหรือกลาง (SME) ก็มีเจ้าหน้าที่บุคคล หรือ ผู้จัดการบุคคล (HR Manager) อยู่แล้ว?

ความสำคัญของ ที่ปรึกษา HR และ พัฒนาธุรกิจ องค์กร 

เนื้องานของ HR ประจำบริษัทจะเป็นการทำงานแบบประจำ (Routine) ที่ต้องทำคล้ายเดิมในทุกๆ เดือน เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ อาทิ งานเงินเดือน, งานสวัสดิการพนักงาน, งานสรรหาบุคคล, งานจัดอบรม โดยรวมแล้วคืองาน HR Operation ซึ่งยังไม่ได้มุ่งเน้นในด้านการยกระดับ หรือพัฒนาระบบงานบุคคลไปตามขนาดของธุรกิจ

ปรึกษาปัญหาด้านงาน HR

 

เมื่อบริษัทเติบโต ผู้ประกอบการอาจเกิดความคิดว่า ขณะที่หน้าบ้านกำลังวิ่งไปข้างหน้า “คงจะดีถ้าคนหลังบ้านสามารถวิ่งตามไปด้วยกันทัน ก่อนจะหันกลับมาพบว่า คนหลังบ้านยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนเลย” 

โดยบริษัทที่กำลังเติบโต หรือ SME มักจะมีการเริ่มจ้าง ผู้จัดการฝ่ายบุคคล (HR Manager) ในอัตราค่าจ้างที่สูง พร้อมด้วยความคาดหวังที่สูงตาม แต่เมื่อได้เริ่มงานกันอาจพบว่า ผู้จัดการฝ่ายบุคคล บางท่านไม่สามารถยกระดับงานบุคคล และ ยกระดับพนักงานในบางด้านได้ เช่น

  • การจัดโครงสร้างองค์กร และ ตำแหน่งงาน (Organizational Structure & Job Description)
  • การปรับปรุงระบบการประเมิน (Performance Management System)
  • การทำแผนพัฒนาพนักงานรายบุคคล (Individual Development Plan)
  • การสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture)
  • การทำระบบโครงสร้างผลตอบแทนเต็มระบบ (Compensation and Benefits)

ซึ่งกว่าจะเจอคนที่เหมาะสม อาจใช้เวลานานเป็นปีหรือสับเปลี่ยนไป 4-5 คน ทำให้แผนการพัฒนาบุคคลและองค์กรลุล่วงได้ช้ากว่าที่กำหนดไว้ ความจริงแล้วไม่ใช่ความผิดของผู้จัดการบุคคล ที่อาจจะทำงานเหล่านั้นไม่ได้ แต่เนื่องด้วยการเติบโตทางสายอาชีพบุคคลนั้นมีมากมาย หลากหลายกลุ่ม

กลุ่มงานและทักษะที่แตกต่างของ HRM และ HRD

ความแตกต่างของ HRM และ HRD เราสามารถจัดเป็นกลุ่มงาน ของ HRM & Strategist และ HRD (Human Resource Development) / OD (Organization Development) ได้ดังนี้

  • กลุ่มงานของ HRM & Strategy จะเน้นความเชี่ยวชาญในด้าน งานสรรหาพนักงาน (Recruitment) การวางแผนกำลังคน (Workforce Planning) ค่าจ้างและสวัสดิการ (Compensation and Benefits)
  • กลุ่มงานของ HRD และ OD จะมีความเชี่ยวชาญในด้าน การสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Culture) การเรียนรู้และการพัฒนาบุคคล (Learning and Development) ระบบการบริหารจัดการคนเก่ง (Talent Management)

ที่ปรึกษา-HRM-HRD-OD-flowchart

ดังนั้น เมื่อมีการจ้าง ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเข้ามาก็อาจจะทำงานได้ไม่เต็มความคาดหวังของผู้ประกอบการ เนื่องด้วยความคาดหวังของผู้ประกอบการในบางด้านนั้น อาจต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญ หรือบทบาทหน้าที่ในระดับตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR Director หรือ Head of HR) ที่สามารถมองภาพรวมขององค์กร และวิเคราะห์เจาะลึกในทุกส่วนของงานบุคคลอย่างละเอียด

แต่หากจะจ้าง HR Director หรือ Head of HR มาประจำอยู่ในบริษัทเลย ก็จะต้องคำนึงถึงเรื่องค่าจ้างในอัตราเงินเดือนที่สูง ซึ่งอาจจะถึงหลายแสนบาทต่อเดือน แต่ถ้าหากธุรกิจแบบ SME มองว่า ยังไม่พร้อมกับการวาง Budget ขนาดนั้น อีกทั้งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนๆเดียวจะมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ได้รอบด้าน การจ้างบริษัทที่ปรึกษางานบุคคลเข้ามาช่วยทำเป็นราย Project เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงเป็นแนวทางที่เหมาะและคุ้มค่ากว่า

ประโยชน์ที่ได้จากการจ้างที่ปรึกษา HR 

สำหรับธุรกิจ

  • ธุรกิจจะมีคนมาช่วยคิดกลยุทธ์งานบุคคลและองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโต ด้วยความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย ต่างจากการจ้างผู้จัดการประจำ
  • ธุรกิจจะสามารถขับเคลื่อนพนักงานได้ตรงตามความต้องการ
  • ธุรกิจจะรู้ Inside จากคนนอกที่จะสะท้อนให้ฝ่ายบริหารเข้าใจคนในองค์กรมากขึ้น
  • ธุรกิจจะรู้ Solution สำหรับการแก้ปัญหาขององค์กร เพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนได้
  • ธุรกิจจะรู้ถึงความสำคัญของตำแหน่งงานหรือบุคคลที่เป็น Key Position หลักที่จะพัฒนาไปพร้อมกับองค์กรได้

สำหรับฝ่ายบุคคล

  • ฝ่ายบุคคลก็จะได้เรียนรู้การทำงานของที่ปรึกษางานบุคคล  รวมถึงเข้าใจกระบวนการวางแผนการทำงานอย่างมีระบบกับทีมที่ปรึกษา
  • ฝ่ายบุคคลจะได้วิธีคิดวิเคราะห์ เนื้องานของ HR ให้ตอบโจทย์ธุรกิจกับทีมที่ปรึกษา
  • ฝ่ายบุคคลจะได้รับกระบวนการทำงานใหม่ๆ ของระบบงานบุคคล จากทีมที่ปรึกษา
  • ฝ่ายบุคคลจะได้พัฒนา career ของตนเอง และเห็นภาพ Career ของตนเองได้ จากการปรึกษาทีมที่ปรึกษา พร้อมเติบโตไปพร้อมองค์กร

แนวทางโซลูชั่น แก้ปัญหาด้านงาน HR มีอะไรบ้าง

1 การวางแผนผังโครงสร้างองค์กร (Organization Chart)
2 การวิเคราะห์ค่างาน กำหนดหน้าที่แต่ละตำแหน่งงาน (Job Analysis & Description)
3 การตั้ง KPI กำหนดการประเมิน วัดผลความสำเร็จ (Set KPI)
4 การสร้างวัฒนธรรมองค์กร และ ค่านิยมองค์กร (Organizational Culture & Core Value)
5 การตั้งวิสัยทัศน์องค์กร (Company Vision)
6 การสร้างความผูกพันกับองค์กร (Employee Engagement)
7 การวางแผนระบบผู้สืบทอดตำแหน่งงานต่อ (Succession Planning)
8 การสร้างระบบการเติบโตทางสายอาชีพ (Career Path)
9 บริหารจัดการคนเก่ง ผู้มีความสามารถโดดเด่น (Talented Retention & Management)
10 การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management)
11 วางกลยุทธ์ด้านงานบุคคลและพัฒนาบุคลากร (HR Strategies & People Transformation)
12 วางกลยุทธ์องค์กรและระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน (Organizational Strategy & Performance Management)
13 ออกแบบโปรแกรมการพัฒนาผู้นำ (Leadership Development)
14 การกำหนดแผนการฝึกอบรบบุคลากรแต่ละตำแหน่ง (Training Road Map)
15 การสร้างแผนพัฒนาพนักงานรายบุคคล (Individual Development Program)
16 ออกแบบการอบรมตามความต้องการขององค์กร (Customized Training for Organization)
17 การพัฒนาสมรรถนะบุคลากร (Competency)
18 การสร้างแผนพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมองค์กร (Social Sustainability)

หัวข้อรายการ Solution อาจจะมากน้อยขึ้นอยู่กับ บริษัทที่ปรึกษางานบุคคลนั้นๆ จะมีทีมผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ที่มีความสามารถและประสบการณ์ในการทำโปรเจกต์ (Project) เหล่านี้มากน้อยแค่ไหน โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละปัญหา ความซับซ้อนในการจัดการโซลูชั่น, ขนาดองค์กร, จำนวนของพนักงาน รวมถึงทีมงานของบริษัทที่ปรึกษา ที่ใช้ในการสนับสนุน Project นั้นๆ ซึ่งการคิดค่าใช้จ่าย จะมีทั้งรูปแบบที่คิดเป็นราย Project หรือ เป็นรายชั่วโมง (Man-Hour) ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการทำข้อตกลงกัน

ปัจจัยการเลือก บริษัทที่ปรึกษา HR มีอะไรบ้าง

แนวทางการเลือก บริษัทที่ปรึกษาด้านงาน HR โดยส่วนใหญ่จะเลือกจากความน่าเชื่อถือของบริษัท หรือ ประวัติการทำงานของผู้ที่ให้คำปรึกษา นอกจากนี้แล้วอาจใช้ข้อสังเกตุ กับการตั้งคำถามเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดได้ เช่น

  1. ทีมที่ปรึกษาที่จะจ้างนั้น เคยมีประสบการณ์ทำ Project ด้วย Solution ด้านนั้นๆ หรือไม่?
  2. Expert หรือผู้เชี่ยวชาญของทีมที่ปรึกษานั้น เคยมีประสบการณ์ทำงานในระบบของบริษัทมาก่อนหรือไม่?  เพราะถ้าไม่เคยเป็นพนักงานที่ทำงานในระบบงานบริษัทมาก่อนซักระยะหนึ่ง หรือประมาณ 10 ปีขึ้นไป ก็อาจจะขาดความเข้าใจในการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งพนักงานและตัวองค์กรได้อย่างลึกซึ้งในการ Implement ระบบงานที่จะสามารถนำมาใช้ได้จริง 
  3. ทีมที่ปรึกษาเคยทำงานในธุรกิจประเภทเดียวกันกับท่านหรือไม่? ซึ่งหากที่ปรึกษาไม่เคยทำ ก็อาจให้คำแนะนำที่ไม่ตรงจุด และอาจไม่รู้ถึงข้อพึงระวังในสายงานทางธุรกิจของท่านได้
  4. ทีมที่ปรึกษา มีคนช่วยสนับสนุน Project manager หรือไม่ หรือหาก Project Manager ไม่ได้อยู่กับบริษัทที่ปรึกษาแล้วจะมีใครมาสานงานต่อท่านได้ทันที เพราะการ Implement แต่ละ Project จะใช้เวลาค่อนข้างนาน และ Expert จะต้องอยู่กับ Project เป็นเวลานานหลายเดือน หากเกิดอุบัติเหตุทำให้ Project Manager ไม่สามารถทำงานต่อได้ จะต้องมีผู้ช่วยสนับสนุนที่สามารถดำเนินงานต่อได้ และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดจนจบโครงการ
  5. ทีมที่ปรึกษา เป็นอาจารย์สอน (Trainer) เพียงอย่างเดียวหรือไม่ เพราะในการใช้บริการท่านผู้ประกอบการ ต้องกำหนดความคาดหวังให้ชัดเจนว่า ธุรกิจต้องการเพียงอาจารย์สอนเนื้อหาในตำรา หรือ คนที่เข้ามาช่วยนั่งทำ (Implement) ไปด้วยกัน แล้วอยู่จนจบการจ้าง หรือจ้างมาแล้วจะมีการส่งมอบอะไรที่ชัดเจนในตัว Project มากกว่า สอนหนังสือให้พนักงานแบบครั้งเดียวจบ (One time) แล้วจากกัน 

โดยข้อมูลที่กล่าวข้างต้นนี้ จะทำให้องค์กรของท่านพัฒนาพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตและบรรลุเป้าหมาย หากท่านใดมีความสนใจที่จะสอบถามปัญหา หรือขอคำปรึกษาเพิ่มเติมสามารถกดปุ่มด้านล่างเพื่อขอคำปรึกษาได้เลย

 

ปรึกษาด้านงาน HR

 

 

ลิขสิทธิ์โดย CONSYNC Group

บทความที่เกี่ยวข้อง

สามารถกด Like เพื่อติดตามบทความดีๆ ก่อนใคร และเป็นกำลังใจให้กับทีมงานค่ะ


This will close in 23 seconds